
Remote Work – เครื่องมือทำงานในยุคไวรัสโควิด-19
ในช่วงเวลาที่เราเป็นกังวลกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 การหลีกเลี่ยงแหล่งชุมชนเป็นสิ่งที่ควรทำ องค์กรในหลายประเทศรวมทั้งไทยก็เริ่มให้มีทางเลือกกับพนักงานในการทำงานจากที่บ้านแทนการไปทำงานที่บริษัท แต่ในความเป็นจริงแล้ว แนวคิดการทำงานจากที่บ้าน หรือ Remote Work เป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นมาก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพียงแค่ไวรัสโควิด-19 เป็นตัวเร่งประเด็นในเรื่องการทำงานแบบ Remote Work ก็เป็นได้
นอกจากความกังวลเรื่องประสิทธิภาพของงานหากมีการทำงานแบบ Remote Work แล้วนั้น ค่าใช้จ่ายในการทำระบบให้ รองรับการทำงานแบบ Remote Work ก็ค่อนข้างสูงกว่าระบบปกติที่ไม่รองรับ Remote Work และที่จะลืมนึกถึงไม่ได้คือ ผู้ใช้งานจะสามารถทำงานได้ง่ายและสะดวกเหมือนการทำงานที่บริษัทหรือไม่ ซึ่งมี 4 เรื่องใหญ่ที่ต้องคำนึงถึง หากต้องการให้มีการทำ Remote Work อย่างมีประสิทธิภาพ
1. สร้างรากฐานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ สำหรับการเข้าถึงดิจิทัลระยะไกล – การอำนวยความสะดวกให้พนักงานสามารถเข้าถึงระบบขององค์กรจากข้างนอกบริษัทโดยไม่สร้างระบบรักษาความปลอดภัยอาจมีผลเสียมากกว่าประโยชน์ซึ่งรวมถึงทุกส่วนที่ใช้ในการทำงาน ตั้งแต่ Internet Access, Data, Communication Channel และ Applications
a. Internet Access
i. อย่าคิดว่าพนักงานจะมีช่องทางการเข้าถึง Internet ที่ดี ไม่ว่าจากที่บ้านหรือที่อื่น หลายคนอาจมีเพียงแค่ Internet Access จากมือถือเท่านั้น
ii. ความเร็วของ Internet ก็เป็นส่วนสำคัญ โดยเฉพาะการใช้งาน Remote ครั้งแรกที่ต้องมีการ Sync ข้อมูลจำนวนมาก รวมถึงการใช้งาน Web & Video Conference
iii. อย่าลืมเรื่องการจัดทำ Remote Work Policy ซึ่งรวมถึงงบลงทุนการอบรมใช้งาน
b. อุปกรณ์ปลายทางที่ใช้ เช่น Notebook, Webcam, Headset, และอื่น ๆ
i. อุปกรณ์ส่วนตัวของพนักงาน – งบลงทุนต่ำและเร็วในการ Implement แต่ความเสี่ยงสูง
ii. อุปกรณ์ที่บริษัทจัดให้ – งบลงทุนสูง หากยังไม่มีหรือไม่เพียงพอ และควรต้องจัดการเรื่อง Device Compliance เพื่อป้องการกันลง Software ที่นอกเหนือ Policy
c. Secure Remote Access (VPN)
i.การทำงาน Remote ไม่ควรทำโดยไม่ใช้ VPN เพราะเป็นช่องทางการเข้าถึงข้อมูลบริษัทโดยตรง
ii. นอกเหนือจากนั้น การใช้ MFA เพิ่มเติมจากที่ใช้เพียงแค่ Username & Password เป็นสิ่งที่ควรอย่างยิ่ง เพราะจะสามารถระบุตัวตนผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง รวมถึงป้องกันบุคคลอื่นรู้รหัสผ่านได้อีกด้วย
2. ให้การเข้าถึงการผลิดสายงานธุรกิจและเครื่องมือสื่อสาร/การทำงานร่วมกัน – การทำงานในปัจจุบันอาศัยการทำงานแบบเป็นทีมที่สามารถแบ่งปันข้อมูล เอกสาร เพื่อให้ผลของงานเกิดอย่างเต็มที่ โดยใช้ Application ร่วม เช่น Office 365 & G Suite, ระบบ HR ระบบ Saleforce
3. พัฒนาการทำงานระยะไกล
4. ปลูกฝังวัฒนธรรมการทำงานระยะไกลและความคิด
เสริมความปลอดภัยให้ Remote Working ด้วยการโซลูชั่นผลิตภัณฑ์ Firewall จาก WatchGuard ผู้นำด้าน Multi-function Firewall ระดับโลก ช่วยในการตรวจจับและป้องกันภัยคุกคาม (Threats) และมัลแวร์ประเภทต่าง ๆ (Malwares) สามารถควบคุมการใช้แอพพลิเคชั่น และการเข้าถึงเว็บไซต์ต่าง ๆ ของผู้ใช้งาน ป้องกันอีเมลสแปม (Spam Blocking) หรือแม้แต่ช่วยป้องกันข้อมูลสูญหายหรือรั่วไหล (Data Loss Prevention) ได้อีกด้วย