Data Protection

การคุ้มครองข้อมูล (Data Protection)

การคุ้มครองข้อมูล (Data Protection) คือการป้องกันข้อมูลสำคัญจากการถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต การแก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต และการถูกทำลายหรือสูญหาย การคุ้มครองข้อมูลครอบคลุมการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลทั้งในเชิงกายภาพและทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางธุรกิจ และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ

ความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูล

  • ปกป้องความเป็นส่วนตัว: การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลช่วยป้องกันการละเมิดความเป็นส่วนตัวและการใช้ข้อมูลในทางที่ผิด
  • รักษาความมั่นคงของธุรกิจ: ข้อมูลธุรกิจที่สำคัญ เช่น ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลทางการเงิน หากสูญหายหรือถูกโจรกรรม อาจทำให้ธุรกิจเสียหายอย่างร้ายแรง
  • การปฏิบัติตามกฎหมาย: หลายประเทศมีกฎหมายที่กำหนดให้ต้องคุ้มครองข้อมูล เช่น GDPR ในยุโรป
  • ลดความเสี่ยงต่อการโจมตีไซเบอร์: การมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ เช่น การโจมตีด้วย ransomware
DPO เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล- OpenPDPA
 

แนวทางปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูล

  • การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption)
  • การสำรองข้อมูล (Backup)
  • การจัดการสิทธิ์การเข้าถึง (Access Control): กำหนดสิทธิ์ให้เหมาะสมกับบทบาทของแต่ละบุคคลในองค์กร
  • การใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ (Antivirus/Anti-malware)
  • การอบรมพนักงาน (Employee Training): เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยข้อมูลและการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์
  • การทดสอบและประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment)

การป้องกัน ransomware

Ransomware คือมัลแวร์ที่เข้ารหัสข้อมูลในระบบของเหยื่อและเรียกร้องค่าไถ่เพื่อปลดล็อกข้อมูล ต่อไปนี้เป็นวิธีการป้องกัน ransomware:

  • การสำรองข้อมูล (Backup): สำรองข้อมูลเป็นประจำและเก็บสำเนาไว้ในที่ที่แยกออกจากระบบหลัก เช่น อุปกรณ์เก็บข้อมูลภายนอกหรือคลาวด์
  • การอัปเดตซอฟต์แวร์ (Software Updates): อัปเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ทั้งหมดเป็นประจำเพื่อลดความเสี่ยงจากช่องโหว่ที่ถูกค้นพบ
  • การใช้งานซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ (Antivirus/Anti-malware): ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ที่มีการอัปเดตฐานข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
  • การควบคุมสิทธิ์การเข้าถึง (Access Control): จำกัดสิทธิ์การเข้าถึงระบบและข้อมูลเพื่อลดความเสี่ยงจากการติด ransomware
  • การฝึกอบรมและให้ความรู้ (Training and Awareness): ให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับการระบุและป้องกันภัยคุกคามจาก ransomware รวมถึงการไม่เปิดไฟล์แนบหรือคลิกลิงก์ที่ไม่แน่ใจ
  • การใช้เทคโนโลยีป้องกัน (Protective Technologies): ใช้เทคโนโลยีเช่น firewall, intrusion detection/prevention systems (IDS/IPS) และ sandboxing เพื่อตรวจจับและป้องกัน ransomware

การคุ้มครองข้อมูลเป็นส่วนสำคัญของการรักษาความปลอดภัยในโลกดิจิทัล โดยการนำแนวทางปฏิบัติที่ดีมาใช้และป้องกันภัยคุกคามจาก ransomware จะช่วยให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยและธุรกิจของคุณมีความมั่นคงยิ่งขึ้น

ระบบสำรองข้อมูล (Backup)

การสำรองข้อมูล (Backup) คือกระบวนการคัดลอกข้อมูลจากระบบหลักไปยังพื้นที่จัดเก็บข้อมูลอื่น ๆ เพื่อให้สามารถกู้คืนข้อมูลได้ในกรณีที่ข้อมูลหลักสูญหายหรือถูกทำลาย การสำรองข้อมูลช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญจะปลอดภัยและสามารถกลับมาใช้ได้แม้จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การโจมตีทางไซเบอร์ ข้อผิดพลาดของฮาร์ดแวร์ หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ

กลยุทธ์การสำรองข้อมูลที่มีชื่อว่า 3-2-1-1-0

กลยุทธ์การสำรองข้อมูลที่มีชื่อว่า 3-2-1-1-0 เป็นหนึ่งในแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องข้อมูลของคุณจากการสูญหาย:

  • 3: เก็บสำเนาข้อมูลอย่างน้อย 3 ชุด (ข้อมูลต้นฉบับและข้อมูลสำรองอีก 2 ชุด)
  • 2: เก็บข้อมูลสำรองในสื่อที่แตกต่างกันอย่างน้อย 2 ชนิด (เช่น ฮาร์ดดิสก์ภายในและคลาวด์)
  • 1: เก็บข้อมูลสำรองอย่างน้อย 1 ชุดนอกสถานที่ (Off-site)
  • 1: เก็บข้อมูลสำรองอย่างน้อย 1 ชุดที่มีความปลอดภัยสูง (Immutable)
  • 0: ตรวจสอบว่าไม่มีข้อผิดพลาด (Error-free) ในการสำรองข้อมูล (ผ่านการทดสอบการกู้คืน)

ความสำคัญของการสำรองข้อมูล

  • ปกป้องข้อมูลสำคัญ: การสำรองข้อมูลช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญจากการสูญหายหรือถูกทำลาย
  • เพิ่มความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจ: การสำรองข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องแม้จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
  • ลดความเสี่ยงทางการเงิน: การสูญหายของข้อมูลอาจทำให้ธุรกิจสูญเสียเงินจำนวนมาก การสำรองข้อมูลช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้
  • การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ: หลายประเทศมีกฎหมายและข้อบังคับที่กำหนดให้ต้องสำรองข้อมูลเพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูล

แนวทางปฏิบัติในการสำรองข้อมูล

  • กำหนดนโยบายการสำรองข้อมูล: สร้างนโยบายการสำรองข้อมูลที่ชัดเจนและระบุว่าข้อมูลใดควรสำรองเมื่อใด และเก็บไว้ที่ใด
  • เลือกวิธีการสำรองข้อมูลที่เหมาะสม: ใช้วิธีการสำรองข้อมูลที่เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจ เช่น การสำรองข้อมูลแบบเต็ม (Full Backup) การสำรองข้อมูลแบบเพิ่ม (Incremental Backup) หรือการสำรองข้อมูลแบบแตกต่าง (Differential Backup)
  • ใช้ซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลที่เชื่อถือได้: เลือกใช้ซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือและสามารถตอบสนองความต้องการของธุรกิจ
  • ทดสอบการกู้คืนข้อมูล: ทดสอบกระบวนการกู้คืนข้อมูลเป็นประจำเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถกู้คืนข้อมูลได้จริงเมื่อเกิดเหตุการณ์
  • ตรวจสอบและปรับปรุงแผนการสำรองข้อมูล: ตรวจสอบและปรับปรุงแผนการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจและเทคโนโลยี

การสำรองข้อมูลเป็นขั้นตอนสำคัญในการปกป้องข้อมูลและความมั่นคงของธุรกิจ ด้วยการนำกลยุทธ์ 3-2-1-1-0 มาใช้และเลือกใช้โซลูชันสำรองข้อมูลที่เหมาะสม คุณจะมั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญจะปลอดภัยและสามารถกู้คืนได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

Veeam Backup & Replication 10 - Top New Features - VIRTUALIZATION IS LIFE!

Veeam Backup & Replication

Veeam Backup & Replication คือโซลูชันการสำรองและกู้คืนข้อมูลที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถปกป้องและกู้คืนข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว Veeam Backup มุ่งเน้นที่การสำรองข้อมูลของระบบเวอร์ชวลไลเซชัน (Virtualization) เช่น VMware และ Hyper-V แต่ยังสามารถใช้กับระบบคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ได้

จุดเด่นของ Veeam Backup & Replication

  • การสำรองข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ: Veeam ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อทำให้การสำรองข้อมูลเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและไม่ส่งผลกระทบต่อระบบหลัก
  • การกู้คืนข้อมูลที่รวดเร็ว: Veeam สามารถกู้คืนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วในระดับไฟล์หรือระดับระบบทั้งหมด ช่วยลดเวลาหยุดชะงักของธุรกิจ
  • รองรับหลายแพลตฟอร์ม: รองรับการสำรองข้อมูลทั้งในระบบเวอร์ชวลไลเซชัน ระบบคลาวด์ และเซิร์ฟเวอร์ฟิสิคัล
  • การป้องกันมัลแวร์และ ransomware: มีการป้องกันข้อมูลสำรองจากการถูกเข้ารหัสโดย ransomware

Feature สำคัญของ Veeam Backup & Replication

  • Instant VM Recovery: สามารถกู้คืน VM ทั้งหมดได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการคืนค่าไฟล์ทั้งหมด
  • SureBackup: ทดสอบความสมบูรณ์ของข้อมูลสำรองโดยอัตโนมัติ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสามารถกู้คืนได้จริง
  • Veeam Cloud Connect: รองรับการสำรองข้อมูลไปยังผู้ให้บริการคลาวด์เพื่อเพิ่มความมั่นคงและการป้องกันข้อมูลสำรองนอกสถานที่
  • Scale-out Backup Repository: ช่วยให้สามารถขยายพื้นที่เก็บข้อมูลสำรองได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน
  • Backup from Storage Snapshots: สำรองข้อมูลจาก snapshots ของ storage ที่สนับสนุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสำรองข้อมูล
  • Data Labs: ให้ความสามารถในการทดสอบและพัฒนาภายในสภาพแวดล้อมที่แยกจากระบบหลักโดยใช้ข้อมูลสำรอง

วิธีการป้องกัน ransomware ด้วย Veeam Backup

  • Immutable Backups: Veeam ให้การสนับสนุนการเก็บข้อมูลสำรองแบบเปลี่ยนแปลงไม่ได้ (Immutable) ซึ่งทำให้ข้อมูลสำรองไม่สามารถถูกแก้ไขหรือลบได้ในช่วงระยะเวลาที่กำหนด
  • การตรวจสอบและทดสอบการกู้คืน: ใช้ฟีเจอร์ SureBackup เพื่อทดสอบการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลสำรองสามารถกู้คืนได้จริง
  • Air-Gapped Backup: การสำรองข้อมูลในที่เก็บข้อมูลที่แยกออกจากเครือข่ายหลัก (Air-Gap) เพื่อป้องกันการเข้าถึงจาก ransomware
  • Multi-Factor Authentication (MFA): ใช้ MFA เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงระบบ Veeam Backup
  • การอัปเดตซอฟต์แวร์: อัปเดตซอฟต์แวร์ Veeam และระบบปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องเป็นประจำเพื่อป้องกันการโจมตีจากช่องโหว่
  • การติดตั้งและกำหนดค่านโยบายความปลอดภัย: กำหนดค่าและติดตั้งนโยบายความปลอดภัยใน Veeam Backup ให้เหมาะสม เช่น การควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงและการเข้ารหัสข้อมูลสำรอง

Veeam Backup เป็นโซลูชันการสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและมีความสามารถหลากหลายที่ช่วยให้องค์กรสามารถปกป้องและกู้คืนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลายและการป้องกัน ransomware ที่แข็งแกร่ง Veeam Backup จึงเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการปกป้องข้อมูลในยุคดิจิทัล

Connaissez-vous Veritas Backup Exec ?

Veritas Backup Exec

Veritas Backup Exec เป็นซอฟต์แวร์สำรองและกู้คืนข้อมูลที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรทุกขนาดสามารถปกป้องและกู้คืนข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ Backup Exec รองรับการสำรองข้อมูลในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เช่น เซิร์ฟเวอร์ฟิสิคัล, ระบบเวอร์ชวลไลเซชัน (Virtualization), และระบบคลาวด์ โดยมุ่งเน้นที่การใช้งานง่ายและการจัดการที่มีประสิทธิภาพ

จุดเด่นของ Veritas Backup Exec

  • การสำรองข้อมูลแบบครบวงจร: รองรับการสำรองข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์, VM, และระบบคลาวด์ในแพลตฟอร์มเดียว
  • การจัดการง่าย: มีอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและการตั้งค่าที่ไม่ซับซ้อน ทำให้ง่ายต่อการจัดการและกำหนดค่า
  • การกู้คืนข้อมูลที่รวดเร็ว: สามารถกู้คืนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วทั้งในระดับไฟล์และระดับระบบ
  • ความยืดหยุ่น: รองรับการสำรองข้อมูลในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและสามารถปรับขยายตามความต้องการของธุรกิจ

Feature สำคัญของ Veritas Backup Exec

  • Flexible Storage Options: รองรับการเก็บข้อมูลสำรองในดิสก์, เทป, และคลาวด์ ทำให้สามารถเลือกใช้วิธีการสำรองข้อมูลที่เหมาะสมกับองค์กร
  • Deduplication: มีเทคโนโลยีการลดขนาดข้อมูลสำรอง (Deduplication) เพื่อลดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพในการสำรองข้อมูล
  • Instant Recovery: สามารถกู้คืน VM และแอปพลิเคชันได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการกู้คืนไฟล์ทั้งหมด
  • Cloud Integration: รองรับการสำรองและกู้คืนข้อมูลจากคลาวด์หลายรูปแบบ เช่น AWS, Azure, และ Google Cloud
  • Granular Recovery: สามารถกู้คืนไฟล์หรืออ็อบเจกต์เฉพาะจากการสำรองข้อมูลทั้งหมดได้ ทำให้สามารถกู้คืนข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
  • Automated Disaster Recovery: มีฟีเจอร์การกู้คืนจากภัยพิบัติแบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถกลับมาดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

วิธีการป้องกัน ransomware ด้วย Veritas Backup Exec

  • Immutable Storage: ใช้การเก็บข้อมูลสำรองในที่เก็บข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ (Immutable) เพื่อป้องกันการแก้ไขหรือลบข้อมูลสำรอง
  • Air-Gapped Backup: เก็บข้อมูลสำรองในที่เก็บข้อมูลที่แยกออกจากเครือข่ายหลัก เพื่อป้องกันการเข้าถึงจาก ransomware
  • Encryption: เข้ารหัสข้อมูลสำรองทั้งในขณะส่งและขณะเก็บรักษา เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • Multi-Factor Authentication (MFA): ใช้ MFA เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงระบบ Backup Exec
  • Regular Software Updates: อัปเดตซอฟต์แวร์ Backup Exec และระบบปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องเป็นประจำเพื่อลดความเสี่ยงจากช่องโหว่
  • Behavioral Analysis: ใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อระบุและป้องกันการโจมตีจาก ransomware
  • Test and Validate Backups: ทดสอบและตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อมูลสำรองอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสามารถกู้คืนได้จริง

Veritas Backup Exec เป็นโซลูชันการสำรองข้อมูลที่มีความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพสูง ด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลายและการป้องกัน ransomware ที่แข็งแกร่ง Backup Exec ช่วยให้องค์กรสามารถปกป้องและกู้คืนข้อมูลได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

Veritas NetBackup – WTC COMPUTER

Veritas NetBackup #1 in enterprise backup solutions

Veritas NetBackup เป็นโซลูชันการสำรองและกู้คืนข้อมูลสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการระบบที่มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพสูง NetBackup รองรับการสำรองข้อมูลในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เช่น ระบบเวอร์ชวลไลเซชัน (Virtualization), คลาวด์, และแอปพลิเคชันที่หลากหลาย โดยมีการจัดการที่ง่ายและสามารถปรับขยายได้ตามความต้องการขององค์กร

จุดเด่นของ Veritas NetBackup

  • ความสามารถในการปรับขยาย: ออกแบบมาเพื่อรองรับการสำรองข้อมูลในองค์กรขนาดใหญ่ที่มีปริมาณข้อมูลมหาศาล
  • การจัดการศูนย์กลาง: มีคอนโซลการจัดการศูนย์กลางที่ทำให้การจัดการสำรองข้อมูลในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายเป็นเรื่องง่าย
  • ประสิทธิภาพสูง: ใช้เทคโนโลยีการสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยลดเวลาและพื้นที่ในการสำรองข้อมูล
  • การป้องกัน ransomware: มีฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากการโจมตีด้วย ransomware

Feature สำคัญของ Veritas NetBackup

  • Universal Data Management: รองรับการจัดการข้อมูลจากทุกแพลตฟอร์ม รวมถึงระบบเวอร์ชวลไลเซชัน, คลาวด์, และแอปพลิเคชัน
  • Intelligent Policies: มีการตั้งค่านโยบายสำรองข้อมูลที่อัจฉริยะ ซึ่งช่วยให้สามารถจัดการการสำรองข้อมูลได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ
  • Global Deduplication: มีเทคโนโลยีการลดขนาดข้อมูลสำรอง (Deduplication) ที่ทำให้การสำรองข้อมูลมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • Automated Disaster Recovery: มีการกู้คืนจากภัยพิบัติแบบอัตโนมัติ ช่วยให้องค์กรสามารถกลับมาทำงานได้อย่างรวดเร็ว
  • Cloud Integration: รองรับการสำรองและกู้คืนข้อมูลจากคลาวด์หลายรูปแบบ เช่น AWS, Azure, และ Google Cloud
  • Instant Recovery: สามารถกู้คืนข้อมูลในระดับแอปพลิเคชันหรือ VM ได้ทันที เพื่อให้ระบบกลับมาใช้งานได้รวดเร็ว
  • Data Lifecycle Management: ช่วยจัดการวงจรชีวิตของข้อมูลสำรองตั้งแต่การสำรองไปจนถึงการเก็บรักษาข้อมูลตามนโยบายที่กำหนด

วิธีการป้องกัน ransomware ด้วย Veritas NetBackup

  • Immutable Storage: ใช้การเก็บข้อมูลสำรองในที่เก็บข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ (Immutable) เพื่อป้องกันการแก้ไขหรือลบข้อมูลสำรอง
  • Air-Gapped Backup: เก็บข้อมูลสำรองในที่เก็บข้อมูลที่แยกออกจากเครือข่ายหลัก (Air-Gap) เพื่อป้องกันการเข้าถึงจาก ransomware
  • Encryption: เข้ารหัสข้อมูลสำรองทั้งในขณะส่งและขณะเก็บรักษา เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • Multi-Factor Authentication (MFA): ใช้ MFA เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงระบบ NetBackup
  • Regular Software Updates: อัปเดตซอฟต์แวร์ NetBackup และระบบปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องเป็นประจำเพื่อลดความเสี่ยงจากช่องโหว่
  • Behavioral Analysis: ใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อระบุและป้องกันการโจมตีจาก ransomware
  • Test and Validate Backups: ทดสอบและตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อมูลสำรองอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสามารถกู้คืนได้จริง
  • Automated Alerts and Monitoring: มีการแจ้งเตือนและการตรวจสอบแบบอัตโนมัติเมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่ปกติหรือมีความเสี่ยงจากการโจมตี ransomware

Veritas NetBackup เป็นโซลูชันการสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความสามารถหลากหลาย ทำให้องค์กรขนาดใหญ่สามารถปกป้องและกู้คืนข้อมูลได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย ด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลายและการป้องกัน ransomware ที่แข็งแกร่ง NetBackup เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับการจัดการข้อมูลในยุคดิจิทัล

NAKIVO Solution: Backup Repository Installation Guide

Nakivo Backup & Replication

Nakivo Backup & Replication เป็นโซลูชันการสำรองและกู้คืนข้อมูลที่ออกแบบมาเพื่อให้สามารถปกป้องข้อมูลขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับสภาพแวดล้อมเสมือนจริง (Virtualized Environments) เช่น VMware, Hyper-V, และ Nutanix AHV รวมถึงระบบคลาวด์และฟิสิคัลเซิร์ฟเวอร์ Nakivo มีการจัดการที่ง่ายและประสิทธิภาพสูง ซึ่งเหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่

จุดเด่นของ Nakivo Backup & Replication

  • ประสิทธิภาพสูง: การสำรองและกู้คืนข้อมูลทำได้รวดเร็ว ลดเวลาหยุดชะงักของระบบ
  • การจัดการที่ง่าย: มีอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและการตั้งค่าที่ไม่ซับซ้อน ทำให้ง่ายต่อการจัดการและกำหนดค่า
  • การรวมระบบคลาวด์: รองรับการสำรองข้อมูลไปยังคลาวด์หลายรูปแบบ เช่น AWS, Azure, และ Google Cloud
  • ราคาประหยัด: เป็นโซลูชันที่มีราคาที่เหมาะสมและมีคุณภาพสูง

Feature สำคัญของ Nakivo Backup & Replication

  • VM Backup: รองรับการสำรองและกู้คืน VM จากแพลตฟอร์มเสมือนจริงที่หลากหลาย เช่น VMware, Hyper-V, และ Nutanix AHV
  • Backup to Cloud: รองรับการสำรองข้อมูลไปยังคลาวด์ เช่น AWS, Azure, และ Google Cloud
  • Instant VM Recovery: สามารถกู้คืน VM ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการคืนค่าไฟล์ทั้งหมด
  • Global Deduplication: มีเทคโนโลยีการลดขนาดข้อมูลสำรอง (Deduplication) ที่ทำให้การสำรองข้อมูลมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • Automated Backup Testing: มีการทดสอบการสำรองข้อมูลโดยอัตโนมัติเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสามารถกู้คืนได้จริง
  • Replication: สามารถทำการจำลองข้อมูลไปยังไซต์สำรองเพื่อการกู้คืนจากภัยพิบัติ
  • Backup Copy: รองรับการทำสำเนาสำรองข้อมูลเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล
  • Site Recovery: มีฟีเจอร์การกู้คืนจากภัยพิบัติที่ช่วยให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง
  • Multi-Tenancy: รองรับการใช้งานหลายผู้เช่าพร้อมกันสำหรับ MSPs และองค์กรที่มีการจัดการหลายแผนก

วิธีการป้องกัน ransomware ด้วย Nakivo Backup

  • Immutable Backups: รองรับการเก็บข้อมูลสำรองแบบเปลี่ยนแปลงไม่ได้ (Immutable) ซึ่งทำให้ข้อมูลสำรองไม่สามารถถูกแก้ไขหรือลบได้ในช่วงระยะเวลาที่กำหนด
  • Air-Gapped Backup: การสำรองข้อมูลในที่เก็บข้อมูลที่แยกออกจากเครือข่ายหลัก (Air-Gap) เพื่อป้องกันการเข้าถึงจาก ransomware
  • Encryption: เข้ารหัสข้อมูลสำรองทั้งในขณะส่งและขณะเก็บรักษา เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • Multi-Factor Authentication (MFA): ใช้ MFA เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงระบบ Nakivo Backup
  • Regular Software Updates: อัปเดตซอฟต์แวร์ Nakivo และระบบปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องเป็นประจำเพื่อลดความเสี่ยงจากช่องโหว่
  • Automated Backup Testing: ทดสอบการสำรองข้อมูลโดยอัตโนมัติเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสามารถกู้คืนได้จริง
  • Behavioral Analysis: ใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อระบุและป้องกันการโจมตีจาก ransomware
  • Backup Copy: ทำสำเนาข้อมูลสำรองไปยังสถานที่ที่แยกจากกันเพื่อลดความเสี่ยงจากการโจมตี ransomware ที่อาจทำให้ข้อมูลสำรองทั้งหมดถูกเข้ารหัส

Nakivo Backup & Replication เป็นโซลูชันการสำรองข้อมูลที่มีความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพสูง ด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลายและการป้องกัน ransomware ที่แข็งแกร่ง Nakivo ช่วยให้องค์กรสามารถปกป้องและกู้คืนข้อมูลได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

 

Veeam

VMware

Share :

เราช่วยคุณได้